WiFi คืออะไร
การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตในยุคปัจจุบันนี้ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อกับสายนำสัญญาณ UTP อีกต่อไปแล้วหลังมีการคิดค้นเทคโนโลยี Wireless Lan ขึ้นมาซึ่งการเริ่มต้นการทดสอบเริ่มต้นจากกลุ่มนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาย ซึ่งการทดสอบในครั้งนี้เกิดขึ้นในปี 1970 ด้วยการทดสอบการต่อระบบเครือข่ายแบบสตาร์โดยใช้คอมพิวเตอร์ทั้งหมด 7 เครื่องด้วยกัน โดยแต่ละเครื่องจะอยู่บนเกาะฮาวายทั้งหมด 4 เกาะ เครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งหมดนั้นจะเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายไร้สายที่เรียกว่า ALOHAnet และส่งแพ็กเกจข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ในเครื่องแม่ข่ายและลูกข่าย โดยใช้เครื่องส่งและรับสัญญาณวิทยุอาร์เมเจอร์ (Amateur Radio) เป็นเสมือนฮับ (hub) คอยทำหน้าที่ในการส่งแพ็กเกจข้อมูลให้กับเครื่องลูกข่ายทุกเครื่องและรับข้อมูลจากเครื่องลูกข่ายแต่ละเครื่องด้วยการใช้ความถี่ที่ส่งและรับคนละความถี่กัน
ซึ่งการทดสอบครั้งนั้นถือเป็นครั้งแรกในการเปิดตัวเครือข่ายไร้สาย ต่อมาในปี 1991 สถาบัน IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers)หรือเราจะเรียกว่าสถาบันวิศวกรรมทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กโทรนิคส์ ซึ่งได้ออกมาจัดตั้งมาตราฐานของ Wireless LAN เป็นครั้งแรกซึ่งได้กำหนดมาตรฐาน IEEE 802.11 ขึ้นและในปีเดียวกันนั้นได้รองรับการพัฒนาเชิงพาณิชย์
ในยุคเริ่มต้นนั้นอุปกรณ์ที่ใช้งานในระบบ Wireless นั้นยังมีราคาแพงอยู่สถานที่ใช้จะเป็นองค์กร โรงพยาบาลและมหาวิทยาลับเท่านั้นจนกระทั่งในปี 1999 บริษัทแอปเปิ้ลได้ผลิต iBook ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คที่มีการติดตั้งตัวรับสัญญาณ Wireless มาด้วย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการผลิตมาใช้กับลูกค้าในระดับผู้ใช้งานทั่วไป อุปกรณ์ชิ้นนี้ถือว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่ปฏิวัติวงการ Wireless เพราะหลังจากนั้นก็มีผู้ผลิตมากมายที่ทำการพัฒนาอุปกรณ์รับสัญญาณ wireless ทำให้ราคาของอุปกรณ์ถูกลง และมีผู้ใช้งานมากขึ้นตามไปด้วย
แต่เมื่อมีผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ผลิตแต่ละค่ายก็พยายามพัฒนาอุปกรณ์ของต้นเองทำให้อุปกรณ์ Wireless ไม่มีทิศทางที่แน่นอนเลยทำให้เกิดองค์กรที่จะมากำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์wireless ขึ้นมาโดยให้ชื่อองค์กรนี้ว่า WI-FI organization เป็นสถาบันที่ตั้งขึ้นมาจากความร่วมมือระหว่างบริษัทเอกชนที่ทำธุรกิจด้านการสื่อสารเดิมชื่อว่า WECA(Wireless Ethernet Compatibility Alliance) ซึ่งต่อมาได้เปลี่ยนชื่อเป็น WI-FI organization ในปี 2000 ซึ่งบริษัทที่ทำการก่อตั้งองค์กรนี้ครั้งแรกก็คือ
บริษัท 3com, Aironet ซึ่งในปัจจุบันก็คือ Cisco , Harris Semiconductor ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Intersil, Lucent ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น Aere, Nokia และ Symbol Technology ซึ่งในปัจจุบันนี้สมาชิกอยู่กว่า 320 บริษัทแล้ว
จะเรียกได้ว่าองค์กรนี้เป็นหน่วยงานที่ควบคุมการใช้เครื่องหมายการค้า WI-FI Certificated ออกมาใช้กับสมาชิกเพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า เป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาผู้ผลิตแต่ละรายที่เป็นสมาชิกจะได้โลโก้นี้ไปใส่ไว้ที่ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เนื่องจากการตั้งค่าต่างๆของอุปกรณ์ Wireless มีสเปคที่ต้องการ การเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์จำเป็นต้องมีรหัสความปลอดภัย จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้คุณสมบัติตรงส่วนนี้ร่วมกันระหว่างอุปกรณ์กระจายสัญญาณและอุปกรณ์รับสัญญาณ ซึ่งอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ WI-FI Certificated จะสามารถเชื่อมต่อกันได้แบบไม่มีปัญหาซึ่งหลายคนสงสัยว่า Wireless และ wifi แตกต่างกันอย่างไร จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ทั้ง Wireless และ WIFI นั้นมีความหมายเหมือนกันเพียงแต่ว่าผู้ใช้งานจะเรียก Wifi กันมากกว่า
จะเรียกได้ว่าองค์กรนี้เป็นหน่วยงานที่ควบคุมการใช้เครื่องหมายการค้า WI-FI Certificated ออกมาใช้กับสมาชิกเพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า เป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไม่มีปัญหาผู้ผลิตแต่ละรายที่เป็นสมาชิกจะได้โลโก้นี้ไปใส่ไว้ที่ผลิตภัณฑ์ของตัวเอง เนื่องจากการตั้งค่าต่างๆของอุปกรณ์ Wireless มีสเปคที่ต้องการ การเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์จำเป็นต้องมีรหัสความปลอดภัย จึงมีความจำเป็นที่ต้องใช้คุณสมบัติตรงส่วนนี้ร่วมกันระหว่างอุปกรณ์กระจายสัญญาณและอุปกรณ์รับสัญญาณ ซึ่งอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ WI-FI Certificated จะสามารถเชื่อมต่อกันได้แบบไม่มีปัญหาซึ่งหลายคนสงสัยว่า Wireless และ wifi แตกต่างกันอย่างไร จากข้อมูลจะเห็นได้ว่า ทั้ง Wireless และ WIFI นั้นมีความหมายเหมือนกันเพียงแต่ว่าผู้ใช้งานจะเรียก Wifi กันมากกว่า
การสื่อสารไร้สายทุกรูปแบบมีพื้นฐานการเชื่อมต่อจากคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าทั้งสิ้น โดยคลื่นเหล่านี้จะมีตัวแปรที่ผกผันกันอยู่คือความถี่กับความยาวคลื่น อาทิเช่น คลื่นคลื่นวิทยุที่มีความถี่ต่ำจะมีความยาวคลื่นมาก โดยคลื่นความถี่ที่ใช้อยู่ในระบบwireless ที่มีอยู่ในตลาดคือ 2.4 GHz กับ 5 GHz ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน IEEE ที่ใช้ ซึ่ง IEEE 802.b/g จะใช้ความถี่ที่ 2.4 GHz และมาตรฐาน IEEE 802.11a จะใช้ความถี่ที่ 5 GHz
ลำดับมาตรฐานของ Wireless หรือ Wifi
ปี 1997 มีการประกาศใช้มาตรฐานตัวแรกคือ IEEE 802.11
ปี 1999 มาตรฐาน IEEE 802.11a และ IEE 802.11bประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการ
ปี 2000 WECA ใช้ชื่อ WIFI แทนคำว่า Wireless Fidelity สำหรับเรียกอุปกรณ์ต่างๆที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11b และ IEEE 802.11g
ปี 2002 IEEE กำหนดขอบเขตมาตรฐาน IEEE 802.11 ให้มีตั้งแต่ 802.11a ถึง 802.11i
ปี 2003 มาตรฐาน IEEE 802.11g ประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการ
ปี 2006 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ ที่มีมาตรฐาน 802.11n (Pre-N)แต่ยังไม่ได้การรับรองจาก IEEE
ปี 2007 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ wireless ที่ใช้มาตรฐาน 802.11n
ปี 2009 มีการประกาศมาตรฐาน IEEE 802.11n อย่างเป็นทางการ
ปี 1997 มีการประกาศใช้มาตรฐานตัวแรกคือ IEEE 802.11
ปี 1999 มาตรฐาน IEEE 802.11a และ IEE 802.11bประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการ
ปี 2000 WECA ใช้ชื่อ WIFI แทนคำว่า Wireless Fidelity สำหรับเรียกอุปกรณ์ต่างๆที่รองรับมาตรฐาน IEEE 802.11b และ IEEE 802.11g
ปี 2002 IEEE กำหนดขอบเขตมาตรฐาน IEEE 802.11 ให้มีตั้งแต่ 802.11a ถึง 802.11i
ปี 2003 มาตรฐาน IEEE 802.11g ประกาศใช้งานอย่างเป็นทางการ
ปี 2006 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ ที่มีมาตรฐาน 802.11n (Pre-N)แต่ยังไม่ได้การรับรองจาก IEEE
ปี 2007 มีการเปิดตัวอุปกรณ์ wireless ที่ใช้มาตรฐาน 802.11n
ปี 2009 มีการประกาศมาตรฐาน IEEE 802.11n อย่างเป็นทางการ
ประโยชน์ของ WIFI มีอะไรบ้าง
การเชื่อมต่อเครือข่ายไรสายหรือ Wireless LAN นั้นเป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันมาก โดยประโยชน์ของ WIFI นั้นมีอยู่มากมายอาทิเช่น
1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินระบบเครือข่ายซึ่งปกติแล้วการเชื่อมโยงเครือข่ายนั้นจำเป็นต้องใช้สายนำสัญญาณในการเชื่อมโยงเครือข่าย และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินสายสัญญาณแต่สำหรับระบบ WIFI ไม่จำเป็นเพราะระบบWIFI จะส่งคลื่นวิทยุผ่านอากาศไปยังเครื่องรับ
2. มีความยืดหยุ่นในการใช้งานเพราะการใช้งานไวไฟนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่ สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนก็ได้ภายในรัศมีของการกระจายสัญญาณ
3. ใช้มาตรฐาน IEEE 802 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วไปพร้อมกันนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ WIFI ก็มีราคาถูกลงและมีให้เลือกซื้อหาหลายยี่ห้อ
4. ช่วยส่งเสริมธุรกิจและธุรกรรมทางการเงิน อาทิเช่นการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต การทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งเป็นจุดเด่นของการดำเนินธุรกิจด้านบริการได้อีกด้วย
การเชื่อมต่อเครือข่ายไรสายหรือ Wireless LAN นั้นเป็นการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆให้สามารถใช้งานอินเตอร์เน็ตและแลกเปลี่ยนข้อมูลซึ่งกันและกันมาก โดยประโยชน์ของ WIFI นั้นมีอยู่มากมายอาทิเช่น
1. ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการเดินระบบเครือข่ายซึ่งปกติแล้วการเชื่อมโยงเครือข่ายนั้นจำเป็นต้องใช้สายนำสัญญาณในการเชื่อมโยงเครือข่าย และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินสายสัญญาณแต่สำหรับระบบ WIFI ไม่จำเป็นเพราะระบบWIFI จะส่งคลื่นวิทยุผ่านอากาศไปยังเครื่องรับ
2. มีความยืดหยุ่นในการใช้งานเพราะการใช้งานไวไฟนั้นไม่จำเป็นต้องอยู่กับที่ สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนก็ได้ภายในรัศมีของการกระจายสัญญาณ
3. ใช้มาตรฐาน IEEE 802 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วไปพร้อมกันนั้นอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ WIFI ก็มีราคาถูกลงและมีให้เลือกซื้อหาหลายยี่ห้อ
4. ช่วยส่งเสริมธุรกิจและธุรกรรมทางการเงิน อาทิเช่นการซื้อขายผ่านอินเตอร์เน็ต การทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เน็ต หรือแม้กระทั่งเป็นจุดเด่นของการดำเนินธุรกิจด้านบริการได้อีกด้วย
ข้อดี WiFi
1.ราคาที่ ลงทุน ต่ำที่สุด สำหรับ การให้บริการ ทุกระบบ เมื่อเทียบกัน ต่อ จำนวนห้องผู้ใช้บริการ,สะดวกในการติดตั้ง
2.ไม่ต้อง เจาะอาคาร ผนัง หรือ เดินสาย LAN เป็น จำนวนมาก
3.ความเร็ว ของอุปกรณ์ ( 54 Mbps ) มากกว่า อินเตอร์เนต 1 Mbps ถึง 54 เท่า ทำให้ network ภายใน สามารถ รองรับ เทคโนโลยี ใน อนาคต ได้ หาก ความเร็วอินเตอร์เนตจากผู้ให้บริการ เพิ่มขึ้นเป็น 8 Mbps หรือ 24 Mbpsและ
4.เป็นมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก อุปกรณ์ สามารถหาซื้อได้ทั่วไป และ ปัจจุบัน
5.เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ใน notebook สำหรับ โน้ตบุ๊ค ทั้ง แบบพีซี ที่ใช้เทคโนโลยี ของอินเทล และ เครื่องโน้ตบุ๊ค แอปเปิล ติดมากับเครื่องอยู่แล้ว ซึ่งมีการ์ด WiFi เป็น อุปกรณ์ มาตรฐาน (Mobile technology)
ข้อเสีย WiFi
1. การถูกลักลอบใช้ Wi-Fi
2. การโจรกรรมข้อมูลด้วยเทคนิค Evil Twin
3. การควบคุม MAC Address ของผู้ใช้
4. ควบคุมการแพร่กระจายของสัญญาณ
5. ปิดการเชื่อมต่อกับเครือข่าย WLAN แบบอัตโนมัติ